Gap Series การเปิดกระโดดของตลาดหุ้นไทย

นี่เป็น Data Analysis ชิ้นแรกของพวกเราในปีนี้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่นักลงทุนส่วนใหญ่อาจยังไม่ได้ตระหนักถึงและไม่เคยรับรู้ โดยหากพูดอย่างไม่เกินจริงไปนัก เราคิดว่าข้อมูลนี้จะเป็น 1 ในตัวแปรหลักที่กำหนด Performance ของกลยุทธ์การลงทุนแต่ละประเภท รวมถึงบ่งบอกพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในแต่ละวัน ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้นพวกท่านสามารถติดตามได้จากบทความนี้

เนื่องจากในช่วงต้นปีตลาดหุ้นได้มีการเปิดกระโดดไปมาอย่างต่อเนื่อง สร้างปัญหาให้กับนักลงทุนบางท่านที่ใช้กลยุทธ์ในการเล่นรอบทั้งในตลาดหุ้นและตลาด TFEX เราจึงได้จัดทำงานวิจัยชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจพฤติกรรมในทุก ๆ เช้าของตลาดหุ้น และใช้มันปรับสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น แต่ก่อนอื่นเราต้องขอเฉลยก่อนว่า ผลลัพธ์ที่ได้นั้นผิดไปจากที่คาดคิดไว้พอสมควร และอาจทำให้ใครหลายคนต้องคิดใหม่กับกลยุทธ์ที่ตนเองใช้อยู่หลังจากอ่านบทความนี้จบ ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้นพวกท่านสามารถพิจารณากันได้จากนี้

ท่านคิดว่าในวันพรุ่งนี้(วันทำการถัดไป)ตลาดหุ้นไทยจะเปิดบวกหรือลบกี่จุด ?
ผมเชื่อว่านี่คงเป็นคำถามที่นักลงทุกท่านใช้ประสบการณ์ของตัวเองในการคาดการณ์เรื่องราวเหล่านี้มาโดยตลอด แต่ส่วนใหญ่ก็มองเป็นแค่ภาพวันต่อวัน ที่พอสิ้นวันก็รีเซททุกอย่างและมองใหม่ในวันรุ่งขึ้น โดยไม่เคยปะติดปะต่อเรื่องราวเหล่านี้ในระยะยาว พวกท่านจะเชื่อเราไหม ? หากถ้าเรากำลังบอกว่า พฤติกรรมการเปิดกระโดดนั่นไม่ได้เป็นแบบสุ่ม และมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางหนึ่งอยู่บ่อยครั้ง

เริ่มต้นจากการทำข้อมูลในช่วงปี 2019
            หากเราถามทุกท่านว่าในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นมีแนวโน้มเป็นอย่างไร ? เราเชื่อว่า 100 ทั้ง 100 คงตอบคำถามนี้ได้ เพราะแทบทุกคนต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ตลาดหุ้นค่อนข้าง Sideway โดยราคาปิดสิ้นปีแทบจะเป็นราคาเดียวกับราคาปิดในปีก่อน แต่หากถ้าเราถามคำถามที่ลึกลงไปกว่านั้นว่า “หากนับเฉพาะช่วงที่ตลาดเปิดเท่านั้น (Pre Open) ท่านคิดว่าในตอนนี้ตลาดหุ้นไทยจะเป็นอย่างไร” หลายคนคงคิดเหมือนกับพวกเราใช่ไหมครับ ว่าคำตอบคงเป็นการ Sideway กระโดดขึ้นสลับลงไม่ต่างอะไรกับภาพรวมของทั้งปี แต่ … มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะหากถ้านับเฉพาะการเคลื่อนไหวในตอนเปิดตลาดของแต่ละวันมารวมกัน ตลาดหุ้นไทยจะทำ New High ไปแล้ว !

 

ตารางแสดงส่วนต่างราคาเปิดของวันปัจจุบัน (T) กับราคาปิดของวันก่อน (T-1) ในปี 2019

ตารางที่ทุกท่านเห็นในช่องสุดท้าย (Diff) จะเป็นช่องที่แสดงส่วนต่างของราคาเปิดวันนี้ (T) กับราคาปิดในวันก่อน (T-1) โดย ณ ตอนที่เราประมวลผลข้อมูลเสร็จ สิ่งแรกที่คิดคือ เราต้องล็อคสูตรอะไรสักอย่างผิดแน่ ๆ เพราะมันจะเป็นไปได้จริงหรือ ที่ในปี 2019 ตลาดหุ้นไทย (SET) ที่มีส่วนต่างระหว่างวันแรกกับวันสุดท้ายเพียง 12.72 จุด แต่กลับมีผลรวมของการเปิดกระโดดในแต่ละวันรวมกันสูงถึง 314.71 จุด !
นี่คือเรื่องจริงของตลาดหุ้นไทยในปีก่อน ที่โดยภาพรวมแล้วในช่วงเช้ามักจะกระโดดขึ้น จากนั้นก็มีแนวโน้มซึมตัวลงระหว่างวัน สร้างความยากลำบากให้กับนักลงทุนที่มีสไตล์การลงทุนแบบซื้อแบบ ATO ในช่วงเช้าและขาย ATC ในช่วงเย็น (Day Trade) ซึ่งจะเห็นว่าพฤติกรรมเหล่านี้กลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้ตลาดไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ และกลายเรื่องที่โชคร้ายของตลาดหุ้นไทยในปีที่ผ่านมา … แล้วพวกท่านคิดว่าตลาดหุ้นเพิ่งมีพฤติกรรมแบบนี้จริง ๆ หรือ ?

การเปิดกระโดดขึ้นและถูกขายทำกำไรในระหว่างวันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด
            เราตั้งใจเริ่มต้นจากการแสดงข้อมูลเฉพาะปี 2019 เพื่อให้ทุกท่านคิดว่ามันเป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราวที่เกิดขึ้นเฉพาะในปีที่แล้ว พร้อมกับหาเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่ออธิบายพฤติกรรมเหล่านั้น แต่ในความจริงทุกท่านอาจไม่จำเป็นต้องใส่ใจถึงเหตุผลมากนัก เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะปีที่ผ่านมาเท่านั้น โดยเราลองเก็บข้อมูลในลักษณะเดียวกันในปีก่อนๆย้อนหลังไป 10 ปีที่ผ่านมา จะได้ผลลัพธ์ดังนี้

ตารางแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาเปิด-ปิดในแต่ละปี และผลรวมของการเปิดทั้งหมดในทุกวันทำการ

จากตารางพบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 843 จุด แต่เมื่อดูผลรวมของการเปิดกระโดดในทุกวันทำการกลับมีค่าสูงถึง 2,691 จุด มากกว่าการเปลี่ยนแปลงรวมถึง 3 เท่า และหากพิจารณาให้ละเอียดไปกว่านั้น จะพบว่าแม้บางปีตลาดหุ้นไทยจะติดลบ แต่ไม่เคยมีปีไหนเลยที่ผลรวมจากการเปิดกระโดดติดลบตามไปด้วย ซึ่งจากข้อมูลในส่วนนี้ ทำให้สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่า “ตลาดหุ้นไทยมีพฤติกรรมการเปิดกระโดดขึ้นมากกว่ากระโดดลง”

เป็นเรื่องที่น่าแปลกนะครับ เราสารภาพว่าก่อนทำข้อมูลเรามี Bias ที่คิดว่าคำตอบน่าจะเป็นการเปิดกระโดดลงมากกว่าเปิดกระโดดขึ้น เพราะด้วยทั้งเหตผลที่คิดว่าการประกาศ XD ของหุ้นย่อมส่งผลให้ราคาเปิดกระโดดลงและกดดันดัชนี SET ตามไปด้วย หรือแม้แต่ด้านความรู้สึกที่มักเจ็บปวดกับการเปิดกระโดดลงให้คัทลอสอยู่บ่อย ๆ แต่ความจริงกลับสวนทางจากที่คิด ซึ่งก็ไม่แน่นะครับ ว่าพฤติกรรมเหล่านี้อาจมีนักลงทุนบางกลุ่ม “จงใจ” ทำมันให้เกิดขึ้นก็ได้ ลองคิดดู หากพวกเขาใช้เงินเพียงแค่ไม่กี่พันล้านในช่วง Pre Open เช้า ผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น จากนั้นทำการค่อยๆทยอยขายออกมาในช่วงระหว่างวันที่มีปริมาณการซื้อขายหลายหมื่นล้าน
จากข้อมูลที่ได้ สำหรับคนที่เล่นรอบโดยการซื้อหุ้นหรือ Bias ทางฝั่ง Long ในตลาด TFEX คงกำลังรู้สึกมีความมั่นใจและคิดว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว แต่พวกเราต้องขอให้ข้อมูลพวกท่านเพิ่มเติมว่ามันอาจไม่ได้ง่ายอย่างที่คาดคิดไว้ เพราะเรื่องของการเปิดกระโดด ยังมีข้อมูลแฝงที่เป็นอุปสรรคที่สำหรับการเล่นรอบอยู่เช่นกัน โดยพวกท่านทุกคนต้องรับรู้และเตรียมพร้อมในการรับมือ

 

ตารางแสดง % การเปิดกระโดดทั้งฝั่งขาขึ้นและขาลงของตลาดหุ้นไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

            จากตารางพบว่าหากพิจารณากันแบบภาพรวมทั้งหมด ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราให้ข้อมูลไว้ในก่อนหน้า คือ ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเปิดกระโดดขึ้นมากถึง 64% หรือสามารถพูดได้ว่า ในทุก ๆ 3 วันทำการ เราจะเห็นตลาดหุ้นเปิดขึ้น 2 วันทำการและเปิดลง 1 วันทำการ ดังนั้นหากใครที่เป็นนักลงที่ชอบถือหุ้นข้ามวัน มักจะมีความรู้สึกที่ดีในการลุ้นกับตอนเปิดตลาดในทุก ๆ เช้า … แล้วพวกท่านรู้สึกแบบนั้นกันจริงหรือ ? เราคิดว่าคงมีหลายคนที่ตอบว่าไม่ เพราะในความทรงจำของแต่ละคน มักจะจำภาพที่ขนหัวลุกตอนเปิดกระโดดเสียมากกว่า แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น แท้จริงแล้วเรื่องนี้มีคำตอบ โดยหากพิจารณาลึกลงไปและนับเฉพาะวันที่เปิดกระโดดมากกว่า 1% จะพบว่า จำนวนการเปิดกระโดดในทิศทางขาลงกลับมีปริมาณมากกว่าขาขึ้น (ลง 81 ครั้ง ขึ้น 60 ครั้ง)  ดังนั้นคงพอตอบคำถามได้แล้วนะครับ ว่าทำไมพวกเราถึงมักจะโฟกัสกับการเปิดกระโดดลงมากกว่า และนี้คือเหตุผลสำคัญที่การเล่นรอบในฝั่งขา Long อาจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะหากพวกท่านชะล่าใจเมื่อไร ตลาดก็พร้อมจะทำลายเราด้วยการเปิดกระโดดลงอย่างรุนแรงเพียงครั้งเดียว

แล้วเราได้อะไรจากข้อมูลนี้ ?
เราขอยืนยันกับพวกท่านว่าทุก Data ที่พวกเราเคยให้ข้อมูลไปเป็นสิ่งที่เราใช้จริงทั้งหมด โดยบทความนี้กำลังบอกพวกท่านว่า การเปิดกระโดดเป็น 1 ในปัญหาสำคัญของการลงทุนของทุกท่าน
– สำหรับสาย Day Trade ทั้งการซื้อหุ้นหรือเปิด Long หากพฤติกรรมเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไป พวกท่านจะเสียเปรียบในการ “แจกแต้มต่อ” ให้กับตลาดในทุกเช้า เพราะราคามีแนวโน้มเปิดกระโดดสูงและถูกขายกดดันดัชนีในระหว่างวัน
– สำหรับสายเล่นรอบ ทั้งการถือหุ้นหรือ Long ข้ามวันไว้ พวกท่านจะต้องเจอกับปัญหาการเปิดกระโดดลงที่อาจเกิดไม่บ่อย แต่ถ้าเกิดขึ้นมาก็อาจทำให้จุกจนต้องมือสั่นในทุกๆครั้งที่จะตัดสินใจจะคัทลอส โดยใครที่ใช้หุ่นยนต์เทรด หรือ System Trade แบบ Trend Follow จะรู้ดีว่าจังหวะการขาดทุนที่หนักที่สุด (Max drawdown) เกิดจากการที่ตลาดเปิดกระโดดผิดทางอย่างต่อเนื่อง

ทีนี้คงทราบกันได้แล้วใช่ไหมครับ ว่าการเปิดกระโดดนั้น จะสร้างความเสียหายให้พอร์ตพวกท่านอย่างไร ? ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหานี้ ทุกท่านต้องหาแนวทางการสร้าง Trade Setup หรือกลยุทธ์การลงทุนที่ทำให้เราอยู่รอดในระยะยาว โดยรับมือกับการเปิดกระโดด ดังนี้

พวกเรามีวิธีสร้างกลยุทธ์ในการรับมือกับการเปิดกระโดด 2 วิธี

  1. 1. “หลีกเลี่ยง”ความเสียหายจากการเปิดกระโดด
      วิธีการหลีกเลี่ยงหรือขจัดความเสี่ยงจากการเปิดกระโดดที่ดีที่สุด คือ การปิดสถานะหรือขายหุ้นก่อนสิ้นวัน เพราะหากเราไม่มีการถือสถานะข้ามวันมา ต่อให้ตลาดจะเปิดกระโดดไปมากเพียงใด เราก็จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตาม การปิดสถานะแบบ Day Trade เองก็มีข้อเสียเช่นกัน เนื่องจากในบางครั้งการเปิดกระโดดก็อาจเปิดในทิศทางเดิมจากที่เราถือครอง ทำให้เราพลาดโอกาสได้รับกำไร รวมไปถึงการสร้างกลยุทธ์ Day trade เองก็มีปัญหาที่ต้องคำนึงถึงเพิ่มเติม เพราะหากเทรนยังคงชัดเจนก็จะทำให้หาจังหวะเข้ารอบใหม่ได้ยาก และที่สำคัญการเปิด-ปิดบ่อย ๆ จะมีต้นทุนค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น (กลยุทธ์ Day Trade จะมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าถือยาว 2-3 เท่า) ดังนั้น เพื่อประสิทธิภาพของการใช้กลยุทธ์นี้พวกท่านต้องต่อรองค่าธรรมเนียมให้ถูกลงเท่านั้น โดยการเล่นแบบ Day Trade จะช่วยทำกำไรในช่วงที่ตลาดยังไม่มีเทรนและช่วยปกปิดจุดอ่อน(ลดความเสี่ยง)ของกลยุทธ์การถือยาว แต่อย่างไรก็ตามให้พึงระลึกไว้เสมอว่าการ Day Trade จะให้ผลตอบแทนสุทธิต่ำกว่าการถือยาวใน Long term และเนื่องจากพวกเราค่อนข้างเน้นเรื่องการป้องกันความเสี่ยง + มีต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ทำให้พวกเราใส่น้ำหนักการลงทุนแบบ Day Trade 40% ของพอร์ต
  2. 2. “คาดการณ์”ทิศทางของการเปิดกระโดด
    สำหรับในส่วนนี้เป็นส่วนที่นักลงทุนทุกท่านต้องการมากที่สุด เพราะหากถ้าเราสามารถคาดการณ์ทิศทางได้อย่างแม่นยำว่าวันถัดไปตลาดจะเปิดไปในทิศทางไหน ก็จะยิ่งลดโอกาสในการผิดทางจากความเสี่ยงของการเปิดกระโดด รวมถึงอาจสร้างกลยุทธ์ทำกำไรขึ้นมาเพิ่มเติมได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ก็ถือเป็นเรื่องที่ยากเกินไปที่จะทำได้อย่างแม่นยำในทุก ๆ ครั้ง และหากเกิดความผิดพลาด ก็จะยิ่งทวีคูณความเสี่ยงอีกด้วย ในส่วนนี้ต้องใช้ทั้งประสบการณ์ส่วนตัวและทักษะเชิงลึกเป็นพิเศษ โดยเรามีแนวทางการคัดกรองทิศทางที่น่าสนใจมาให้ทุกคนใช้ประยุกต์ต่อ ดังนี้
    2.1 ตลาดมักจะกระโดดไปในเทรนหลัก
    จากตัวอย่างข้างต้น หากเราทำการแบ่งข้อมูลโดยใส่เงื่อนไขคัดกรองข้อมูล “ทิศทางหลัก” เพิ่มเข้าไปตามสมมุติฐานดังนี้ หากวันก่อนตลาดปิดในทิศทางบวก(ลบ)วันต่อมามักจะเปิดกระโดดขึ้น(ลง)จริงหรือไม่ ? โดยผลลัพธ์ที่ได้พบว่า มี 56% ที่เป็นไปตามสมมติฐาน ดังนั้นการใช้แนวโน้มหลักในการคาดการณ์ทิศทางการเปิดกระโดดถือว่ามีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง
    2.2 ตลาดมักเปิดกระโดดตรงข้ามกับการปรับตัวขึ้น-ลงแรงเกินไปของวันก่อน
                แน่นอนว่าเวลาตลาดขึ้น-ลงแรงเกินไปในบางครั้งเราอาจเกิดจากเหตุการณ์ที่เพียงชั่วคราว เช่น การโดน Call / Force ของนักลงทุนในตลาด TFEX หรือข่าวลือต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มทำให้เกิดการ Panic เกินไป และเมื่อจบวันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดก็มีการดีดกลับในช่วงราคาเปิด ซึ่งเรื่องนี้เป็นจุดที่สาย Trend Follow ต้องระวังมากที่สุด เพราะการ Panic แต่ละครั้งมักจะส่งสัญญาณซื้อ/ขายออกมา และหากตลาดเปิดสวนทางกับสถานะที่ถือก็อาจสร้างความเสียหายรุนแรงได้
    โดยในทางปฏิบัติพวกเราใช้วิธีการคัดกรองเทรนเพียงแค่ 10% ของพอร์ตเท่านั้น เนื่องจากลยุทธ์การลงทุนของเราจะถือข้ามในฝั่งที่ตามแนวโน้มไว้อยู่แล้ว และใช้เพียงแค่คัดกรองในเหตุการณ์พิเศษ เช่น ถือครองสถานะมากเกินไปในช่วงที่ตลาดเกิดการ Panic ก็จะทำการปิดสถานะบางส่วนออกเพื่อลดความเสี่ยง เป็นต้น
    สรุปแล้ววิธีการเล่น TFEX ของพวกเรา คือ ไม่เคยถือสถานะข้ามเกิน 60% ของพอร์ต เพราะเราไม่ต้องการเปิดความเสี่ยงจากการเปิดกระโดด แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเหลือสถานะทำกำไรส่วนหนึ่งเมื่อตลาดยังคงมีแนวโน้ม ซึ่งนี่คืออีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกเรา สามารถเอาตัวรอดในตลาด TFEX และไม่ขาดทุนหนักมากเมื่อตลาดมีการเปิดกระโดดไปมา

สำหรับส่วนสุดท้ายที่เป็น Highlight ของบทความที่คนที่เทรด TFEX จำเป็นต้องอ่าน !
เนื้อหาที่เรากำลังจะนำเสนอนี้ เป็นเนื้อหาที่ค่อนข้างหักมุม โดยเรากำลังจะบอกกับทุกท่าน “พฤติกรรมในช่วงเปิดตลาดของ SET50 Index กับ SET50 Index Futures ไม่สอดคล้อง” ฟังดูแล้วเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ เพราะทั้งสองตัวเป็นสินค้าที่เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นตัวเดียวกัน แต่นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น โดยหลังจากทุกท่านอ่านบทความมาถึงในส่วนนี้ คงได้รับข้อมูลว่าตลาดหุ้นมีแนวโน้มเปิดขึ้นอย่างชัดเจน แต่เรื่องแบบนี้กลับไม่เกิดขึ้นในตลาด TFEX

 

 

 

 

 

ตารางแสดงการเปิดกระโดดของ SET50 Index และ SET50 Index Futures ในปี 2019

*ข้อมูลส่วนของ Futures มีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยจากรอยต่อของวันที่มีการเปลี่ยน Series แต่ไม่มีผลต่อข้อสรุปวิจัยอย่างมีนัยสำคัญ
จากตารางจะพบว่าในปีที่ผ่านมาดัชนี SET50 Index มีการเปิดกระโดดรวมกันประมาณ 178 จุด สอดคล้องกับดัชนี SET ที่นำเสนอข้อมูลไปในช่วงแรก แต่กลับพบเรื่องที่ผิดปกติที่ดัชนี SET50 Index Futures กลับมีผลรวมในช่วงเปิดตลาดเช้า ติดลบ 30 จุด ! สวนทางกับดัชนีอ้างอิง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าแปลงใจ เพราะทั้งสองตัว ควรมีการเคลื่อนไหวใกล้เคียงกัน โดยสาเหตุของเรื่องนี้ เกิดจากช่วงเวลาเปิดและปิดตลาดที่เหลื่อมกันอยู่ทำให้เกิดทั้ง “ข้อมูลหลอก” ในตอนเช้า และ “การคาดหวัง” ในช่วงเย็น และหากถ้าศึกษาเพิ่มเติมก็จะทำให้รู้ว่า การเปิดกระโดดระดับไหนที่จะมีแนวโน้มทำให้เกิด “แรงส่ง” ในการปรับตัวขึ้นต่อ

ทุกท่านจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลในตลาด TFEX อย่างละเอียด
ใช่ครับ เรากำลังจะบอกกับทุกท่านว่าข้อมูลที่เราได้นำเสนอเกือบทั้งหมดก่อนหน้านี้ “แทบจะนำไปใช้จริงในตลาด TFEX ไม่ได้” และนี้คือเหตุผลที่ทุกท่านจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างถูกต้อง โดยหวังว่าบทความนี้ คงทำให้ทุกคนพอเห็นภาพว่าการใช้ Data Analysis จะเข้ามาช่วยให้พวกท่านมีหลักการในการลงทุนเพิ่มเติม และใช้มันในการวางกลยุทธ์ได้ดีขึ้น รวมถึงทำใจยอมรับกับกลยุทธ์ของตนเองว่าต้องเผชิญกับปัญหาอะไร

สุดท้ายนี้หลังจากที่เราลงบทความในการแชร์ Mindset ในการลงทุน TFEX ไป ดังกระทู้ “แชร์ประสบการณ์เทรด TFEX ด้วยเงิน 3 ล้านบาทใน 1 ปีที่ผ่านมา”  <<กระทู้ตอบแทนสังคม>>
ทำให้มีกระแสต่าง ๆ กลับมา บ้างก็คิดว่าเอาทำข้อมูลปลอมมาแสดง , มาหาลูกแชร์ หรือต้องการขายคอร์ส ตลอดจนโจมตีว่าแนวคิดของพวกเราแปลก ซึ่งพวกเราก็ทราบดีและไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ ดังนั้น เราจึงอยากขอให้พื้นที่ในส่วนนี้มาประกาศจุดยืนและชี้แจงให้ชัดเจนว่า

“พวกเราจะไม่มีการระดมทุนหรือขายคอร์สใด ๆ ทั้งสิ้น”

โดยเราต้องขอโทษบางท่านที่หลังไมค์มาสอบถามเรื่องการรับจ้างเทรด เพราะพวกเราไม่มีนโยบายนั้น รวมไปถึงจะเปิดคอร์สสอนเกี่ยวกับการลงทุน TFEX “ฟรี”  ให้กับท่านที่สนใจเท่าที่เราจะสามารถ โดยเริ่มจากสัมมนาแรกของปี ตามลิ้งก์ด้านล่างนี้
https://web.facebook.com/2118613741755127/posts/2556929834590180?d=n&sfns=mo&_rdc=1&_rdr
พวกเราเองก็เป็น 1 ในกลุ่มนักลงทุนที่คาดหวังการสร้างรายได้จากการเทรดเช่นเดียวกับทุกคน โดยหากใครที่สนใจการลงทุน TFEX หรือเทรด TFEX อยู่แล้วก็สามารถมาร่วมพูดคุยและพัฒนาแนวคิดการลงทุนไปกับกลุ่มของพวกเราได้ หรือใครที่ยังเทรดค่าธรรมเนียมสูงก็สามารถมาร่วมกลุ่มกับพวกเราเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในเรื่องเหล่านี้ และเราจะค่อยๆ ทำบทความในเรื่องที่น่าสนใจบอกเล่าต่อให้กับสมาชิกทุกท่านอย่างต่อเนื่อง โดยใครที่คิดว่าเป็นประโยชน์ ช่วยแสดงออกให้เรารับรู้ด้วยกำลังใจเล็กๆน้อยๆ สำหรับบทความถัดไป เราจะมาพูดถึงเรื่อง “gap” ที่เป็นเรื่องที่นักลงทุนให้ความสำคัญ โดยจะมาพิสูจน์ว่าตลาดหุ้นไทย มีพฤติกรรมการเปิด-ปิด gap อย่างไร และยังเหลือ gap ไหนที่ยังไม่เคยปิด ขอบคุณครับ