หลังจากที่พวกเราได้ตั้งกระทู้ในเรื่องของผลกระทบจาก Fund Flow ต่างชาติในตลาด TFEX กับทิศทางของตลาดหุ้นไทยดังกระทู้ “ถ้าอยากเข้าใจเรื่อง Flow TFEX ในปัจจุบันและ SET ในอนาคต” อ่านกระทู้นี้ให้จบครับ (บทความเสริม Fund Flow)
โดยเนื้อหาในกระทู้ก่อนหน้า ที่สรุปไว้ว่า “หากนักลงทุนต่างชาติ Short ในปริมาณมาก จะมีโอกาสได้เห็นตลาดหุ้นมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ทำการถัดไป” ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดไว้ เพราะ 5 วันที่ผ่านมา ดัชนีได้ร่วงลงต่อเนื่องในทุกวัน และนอกจากนี้เรายังได้สรุปไว้อีกประการว่า “ต่างชาติจะต้องปิดสถานะ Short ทำกำไรในช่วงเวลาถัดจากนี้ และอาจได้เห็นตลาดดีดตัวกลับ” ซึ่งสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นเช่นเดียวกับอดีตที่ผ่านมาหรือไม่ ? พวกท่านสามารถรับรู้ข้อมูลได้จากเนื้อหาในบทความนี้
ตลาดปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วง 5 วันทำการหลังจากต่างชาติ Short หนัก !
เริ่มจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการที่ต่างชาติได้ทำการ Short หนักในช่วงที่ผ่านมา
ตารางแสดงยอดการซื้อขายสุทธิใน SET50 Futures ของนักลงทุนต่างชาติกับการเปลี่ยนแปลงของดัชนี SET50
จากตารางพบว่าในช่วง 8 วันทำการที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้ทำการ Short สุทธิใน SET50 Futures เกือบทุกวัน โดยมีปริมาณสะสมกว่า 100,000 สัญญา ! ส่งผลให้ดัชนี SET50 ร่วงติดต่อกันตลอด 7 วัน และเมื่อเทียบกับวันแรกที่พวกเขาเริ่ม Short ดัชนี SET50 ได้ลดลงมาแล้วถึง 37 จุด ทั้งที่สถานการณ์ปัจจัยต่างประเทศก็ยังคงดีอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของยอดการซื้อขายของ Flow ต่างชาติในตลาด TFEX ต่อการเคลื่อนไหวของตลาด และคงกล่าวไม่ผิดว่า มันเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ที่นักลงทุนควรพิจารณา
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ … ? นี่คงเป็นคำถามที่ทุกคนอยากรู้คำตอบ ซึ่งแน่นอนว่าหากสถานการณ์เป็นปกติ เราขอยืนยันให้ทุกท่านสบายใจได้เลยว่า “คนที่เล่น TFEX เขาต้องทำกำไรเป็นรอบ ๆ เสมอ” แสดงว่านักลงทุนต่างชาติเขาจะต้องปิดสถานะทำกำไรขา Short ด้วยการ Long กลับ และผลักดันให้ดัชนีปรับตัวขึ้นในระยะสั้นต่อจากนี้
แต่เดียวก่อนนะครับ เราบอกไปแล้วว่าหาก “ถ้าสถานการณ์อยู่ในช่วงปกติ”
ทำไมถึงพูดแบบนี้ … ? เพราะรอบนี้ สถานการณ์มันไม่ปกติครับ
สำหรับการเคลื่อนไหวของ Fund Flow ในตลาด TFEX ในรอบนี้พวกเราเห็นถึงความผิดปกติและจุดที่น่าสังเกต 2 ประการ ที่เป็นเหตผลที่ทุกท่านต้องเก็บมาคิดวิเคราะห์ และจะเป็นข้อมูลสำคัญที่บอกแนวโน้มของตลาดในช่วง 2–3 อาทิตย์ต่อจากนี้
1.นักลงทุกต่างชาติ Short สะสมในรอบ 8 วันทำการมากสุดเป็นประวัติการณ์ !
ตัวเลขเกือบ 100,000 สัญญาที่ทุกท่านเห็น เป็นตัวที่การ Short สุทธิในรอบ 8 วันทำการที่มากสุดตั้งแต่ตลาด TFEX เปิดทำการ ซึ่งอาจทำให้เราไม่สามารถใช้ข้อมูลในอดีตมาอ้างอิงได้ ดังนั้น การคาดการณ์ว่าต่างชาติจะต้อง Cover กลับเพื่อปิดทำกำไรอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เห็น หรือการซื้อกลับแค่วัน , 2 วัน ที่ทำให้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยนั่น มันไม่มีน้ำหนักพอในการหักล้างกับสถานะ Short ทั้งหมดของพวกเขา นอกจากนี้พวกเขายังไม่มีความจำเป็นในการปิดสถานะเสียด้วย ! ทำไมพวกเราถึงกล่าวเช่นนั้น ? พวกท่านสามารถรับรู้ข้อมูลได้จากเหตผลในข้อที่ 2
2.อีก 13 วันทำการ SET50 Futures รุ่นปัจจุบันกำลังจะหมดอายุ !
เราคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นไฮไลท์ของข้อมูลสำหรับตลาดในรอบนี้ที่ทุกท่านจำเป็นต้องรู้ อย่างที่เราบอกไปว่าครั้งนี้ไม่เหมือนปกติ เพราะต่างชาติที่กระหน่ำ Short สะสมมาเป็นจำนวนมากในรอบนี้ เขาไม่มีความจำเป็นต้อง Long กลับเพื่อปิดสถานะ ! เพราะเขารอเพียงแค่อีก 13 วันทำการ สัญญาที่เขาสะสมเป็นแสน ๆ สัญญานี้ก็จะหมดอายุลงไป … แล้วพวกท่านทราบหรือยังครับ ว่าหากถ้านักลงทุนต่างชาติเขาเดินกลยุทธ์ตามนี้ ช่วงเวลาถัดไปจนถึงสิ้นปี แนวโน้มตลาดหุ้นไทยจะเป็นอย่างไร ?
ถ้าใครยังไม่ทราบเราจะมาขยายความให้เข้าใจเพิ่มขึ้น คืองี้นะครับ สัญญา Futures ที่มีสภาพคล่องสูงสุดที่นักลงทุนทุกคนกำลังเล่นกันอยู่ จะมีวันหมดอายุกำหนดไว้ในทุกสิ้นไตรมาส และเมื่อหมดอายุลงตลาด TFEX จะใช้ เกณฑ์การบังคับปิดสถานะแบบอัติโนมัติ โดยใช้ราคาสุดท้ายที่อ้างอิงจาก ดัชนี SET50 ตัวแม่ เป็นราคาในการคิดกำไร/ขาดทุนของทุกคนที่ถือมาจนครบกำหนด ดังนั้น หากถ้าพวกเราเป็นรายใหญ่ที่ถือสถานะฝั่งใดฝั่งนึงในระดับ 100,000 สัญญา ที่ทุก ๆ 1 จุดที่เปลี่ยนแปลงไป จะส่งผลต่อการกำไร/ขาดทุน 20 ล้านบาท ! เขาจะยอมให้ตัวเองเสียผลประโยชน์หรือไม่ … นอกจากนี้หากถ้าพวกเราคิดลึกลงไปถึงเงื่อนไขที่เขามีอำนาจพอในการกำหนดทิศทางตลาด คิดว่าพวกเขาจะสร้างแนวโน้มไปในทิศทางใด ? พวกท่านคงพอคาดการณ์กันได้แล้วใช่ไหมครับ หากใครคิดว่าข้อมูลนี้พอมีความสมเหตสมผล ในช่วง 13 วันทำการข้างหน้าตลาดจะมีแนวโน้มอย่างไร
พออ่านมาถึงตรงนี้ หลายท่านคงกำลังคิดว่าพวกเราสร้างข้อมูลเหล่านี้โดยการมโนขึ้นมาเองหรือไม่ ? และเพื่อลดความสงสัย เราคงต้องขอกระตุ้นท่านในเรื่องที่หลายคนคงอาจลืมไปแล้ว … ว่า ณ ช่วงเวลาเดียวกันนี้ ในปีที่แล้ว (2018) ตลาดหุ้นไทยเกิดอะไรขึ้น !
ตารางแสดงปริมาณการซื้อขายสะสมและการเปลี่ยนแปลงในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2018 และปี 2019
จากตาราง เริ่มดูจากฝั่งซ้ายพบว่าในช่วง 3 เดือนของไตรมาสสุดท้าย นักลงทุนต่างชาติได้ทำการ Short สุทธิมาจนถึงกลางเดือน ธ.ค. (10 ธ.ค.) เป็นจำนวน 40,000 สัญญา ส่งผลให้ SET50 ร่วงลงแรงกว่า 60 จุด ในขณะเดียวกัน เมิ่อเหลือบมาดูฝั่งขวา พบว่าในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ต่างชาติก็ดำเนินการ Short สุทธิกว่า 80,000 สัญญา ซึ่งมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า โดยทำให้ดัชนีลดลง 43 จุด แล้วพวกท่านคิดจะเกิดอะไรขึ้นในช่วง 13 วันทำการสุดท้ายหลังจากนี้ ?
ตารางแสดงปริมาณการซื้อขายสะสมและการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาที่เหลือของเดือน ธ.ค. ปี 2018 และ 2019
จากตารางจะพบว่าในช่วง 2-3 อาทิตย์สุดท้ายของเดือน ธ.ค. 2018 แม้ต่างชาติจะไม่ได้ดำเนินการ Short สุทธิเพิ่มเติมขึ้นสักเท่าไหร่ แต่ดัชนี SET50 ก็ปรับตัวลงอีกกว่า 65 จุด ! และนี้อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญจากเหตผลที่กล่าวไป เพราะพวกเขาจะต้องทำให้ดัชนี SET50 ปิดในวันสุดท้ายให้ “เข้าทางสถานะที่เขาคือครอง” ให้มากที่สุด แล้วพวกท่านละครับ คิดว่าสถานการณ์ในปีนี้จะเป็นอย่างไร ? จะเกิดเรื่องบังเอิญซ้ำสองอีกหรือไม่ …
รายย่อย Follow Trend แต่รายใหญ่ Make a Trend (Credit : นักลงทุนในห้อง Line Square)
สรุปแล้วจากข้อมูลที่เราได้นำเสนอ เบื้องหลังของเกมส์การเงินจาก Fund Flow ในตลาด TFEX มีเงื่อนไขเหล่านี้เข้ามาผสม ทำให้ส่งผลต่อการ “ควบคุม” ทิศทางตลาดหุ้นของรายใหญ่ และเชื่อว่าพวกเขาคงทำทุกอย่างให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์ให้มากที่สุด โดยทำให้ทิศทางตลาดเข้าทางพวกเขา ซึ่งถ้าปัจจัยทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลงและต่างชาติยังเดินหน้า Short อยู่ มันคงไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงนักที่จะบอกว่า “มันจบแล้ว” สำหรับขาขึ้นของตลาดหุ้นไทยในปีนี้
สุดท้ายพวกเราไม่ได้มีเจตนาในการออกมาชี้นำทิศทางตลาด เราเพียงแต่แสดงข้อมูลด้วยเหตุและผลรวมถึงอ้างอิงสถิติที่เรารวบรวมมาให้ทุกท่านได้นำไปวิเคราะห์และพิจารณาประกอบการตัดสินใจลงทุน หากถ้าข้อมูลเหล่านี้มีความผิดพลาด เราต้องขออภัยทุกท่านจากใจ และเราขอขอบคุณนักลงทุนในห้อง Line Square : TFEX For Future ทุกท่านที่ช่วยระดมความคิดจนทำให้เราได้สร้างเนื้อหานี้ออกมา และเราขออวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ
